รู้จักโรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder)

ไบโพลาร์คืออะไร

โรคไบโพลาร์ (Bipolar Disorder) หรือที่บางครั้งเรียกว่าโรคอารมณ์สองขั้ว เป็นโรคทางอารมณ์ที่ผู้ป่วยจะมีภาวะอารมณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปมาระหว่าง ช่วงอารมณ์ดีหรือช่วงอารมณ์คึกคักผิดปกติ (Mania) และ ช่วงอารมณ์เศร้า (Depression) อย่างรุนแรง ซึ่งการเปลี่ยนแปลงนี้แตกต่างจากอารมณ์ขึ้นลงทั่วไปในชีวิตประจำวันอย่างสิ้นเชิง และส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต การทำงาน และความสัมพันธ์กับผู้อื่น

ประเภทของโรคไบโพลาร์

โรคไบโพลาร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลักๆ:

  1. ไบโพลาร์ I (Bipolar I Disorder): เป็นภาวะที่มีอาการของช่วงอารมณ์คึกคัก (Mania) อย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์ หรือรุนแรงจนกระทบต่อการทำงานหรือชีวิตประจำวัน บางครั้งอาจมีอาการของช่วงอารมณ์เศร้าร่วมด้วย

  2. ไบโพลาร์ II (Bipolar II Disorder): ผู้ป่วยจะมีช่วงอารมณ์คึกคักที่ไม่รุนแรงเท่าไบโพลาร์ I เรียกว่าภาวะอารมณ์คึกคักน้อย (Hypomania) ซึ่งมักจะกินเวลาอย่างน้อย 4 วัน แต่จะไม่รุนแรงจนกระทบต่อการทำงาน อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยจะมีอาการของช่วงอารมณ์เศร้าอย่างรุนแรงร่วมด้วย

  3. โรคอารมณ์แปรปรวนน้อย (Cyclothymic Disorder หรือ Cyclothymia): เป็นภาวะที่มีอาการของภาวะอารมณ์คึกคักน้อย (Hypomania) และอาการซึมเศร้าในระดับที่ไม่รุนแรงเท่าไบโพลาร์ I หรือ II สลับไปมาเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 2 ปี (สำหรับผู้ใหญ่) หรือ 1 ปี (สำหรับเด็กและวัยรุ่น) แม้จะไม่รุนแรง แต่ก็ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิต

อาการของโรค

  • อาการในช่วงอารมณ์คึกคัก (Mania):

    • อารมณ์ดีหรือหงุดหงิดง่ายอย่างผิดปกติ

    • มีความคิดยิ่งใหญ่

    • นอนน้อยแต่ไม่เพลีย

    • พูดมากกว่าปกติ

    • ความคิดแล่นเร็ว

    • สมาธิสั้น

    • พฤติกรรมเสี่ยง (เช่น ใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือย)

  • อาการในช่วงอารมณ์เศร้า (Depression):

    • อารมณ์เศร้าอย่างต่อเนื่อง

    • เบื่อหน่ายในสิ่งที่เคยชอบ

    • การกินที่ผิดปกติ

    • การนอนที่ผิดปกติ

    • อ่อนเพลีย

    • รู้สึกไร้ค่า

    • สมาธิแย่ลง

    • มีความคิดอยากตาย

วิธีป้องกันและสิ่งที่ควรทำ

  • การรักษาด้วยยา: ปรึกษาจิตแพทย์และรับประทานยาตามที่กำหนดอย่างสม่ำเสมอ

  • การทำจิตบำบัด: การพูดคุยกับนักบำบัดช่วยให้ผู้ป่วยเข้าใจอารมณ์ของตัวเองและจัดการกับปัญหาต่างๆ ได้ดีขึ้น

  • ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม: การนอนหลับให้เป็นเวลา, การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการออกกำลังกายเป็นประจำ

  • จัดการความเครียด: หาวิธีผ่อนคลายความเครียด เช่น การทำสมาธิ, โยคะ หรือทำกิจกรรมที่ชอบ

  • ขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง: เปิดใจพูดคุยกับครอบครัวหรือเพื่อนสนิท เพื่อขอความเข้าใจและกำลังใจ

หากคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการที่กล่าวมาข้างต้น ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิตหรือจิตแพทย์เพื่อรับการวินิจฉัยและการรักษาที่เหมาะสม


References
World Health Organization (WHO) - Bipolar disorder:
https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/bipolar-disorder
Mind UK - Bipolar disorder:
https://www.mind.org.uk/information-support/types-of-mental-health-problems/bipolar-disorder/about-bipolar-disorder/
National Institute of Mental Health (NIMH) - Bipolar Disorder:
https://www.nimh.nih.gov/health/topics/bipolar-disorder/index.shtml

ความคิดเห็น

Popular Posts