เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ ยาบ้า WY
Dr.Ye Mun Paing (Pyone Cho)
M.B., B.S, M.Med.SC (Mental Health)
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
"จริงๆ แล้ว ช่วงเวลาที่หลายคนโหยหากลับไม่ใช่ความสุขจากยา แต่เป็นช่วงเวลาสั้นๆ ที่ได้วางยาเม็ดเล็กๆ บนแผ่นฟอยล์แล้วจุดไฟเผา... มันมีกลิ่นเฉพาะตัวที่ดึงดูดให้คนเสพแล้วเสพอีก... แต่บางคนก็รู้ดี โดยเฉพาะเมื่อต้องสูญเสียฟันไป... นั่นคือช่วงเวลาที่ควรเริ่มเลิกมันอย่างจริงจังพร้อมกับความรู้สึกเสียใจ ถ้าใช้ไปนานๆ จะเริ่มมีอาการปวดหลังและปวดเมื่อยตามตัว การเลิกใช้คือทางเลือกที่ดีที่สุด
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าคุณเอาชนะใจตัวเองได้ การเลิกยาก็จะง่ายขึ้นมาก และนี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้รับจากการตัดสินใจเลิกยา...
ผิวพรรณกลับมาสดใส
ใบหน้าจากที่เคยซูบตอบจะกลับมาอิ่มเอิบ
กลับมาใช้ชีวิตในสังคมได้อีกครั้ง
มีรายได้เพิ่มขึ้น
มีความมั่นใจในตัวเองมากขึ้น
เห็นไหมว่ามันดีแค่ไหน... ดังนั้น แม้จะยังเลิกไม่ได้จริงๆ ก็ลองใช้แค่วันเว้นวันก็ยังดี... อย่ากลับไปใช้ซ้ำเมื่อฤทธิ์ยาหมด เพราะมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย... สู้ไปนอนหลับพักผ่อนให้เต็มที่ยังจะดีกว่า... พยายามอย่าใช้มันให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้... แล้ววันหนึ่งคุณจะเลิกมันได้อย่างถาวร สำหรับคนรุ่นใหม่ในยุคนี้ 'ยาบ้า' หรือ 'Yaba' เป็นสิ่งที่ทำลายอนาคตของพวกเขา มันอาจทำให้คุณรู้สึกดีในช่วงแรก แต่ในระยะยาว มันจะทำให้เกิดอาการทางจิตและวิกลจริตได้ ผมเขียนบทความนี้ขึ้นมาเพื่อเตือนให้รู้ว่ามันไม่เพียงแต่ทำลายจิตใจ แต่ยังทำลายร่างกายอีกด้วย
WY คืออะไร?
ยาบ้า WY หรือที่รู้จักในชื่อต่างๆ เช่น ยาบ้า ยาม้า ยาไอซ์ ยาเม็ด หรือ ยาแคปซูล มีส่วนผสมหลักคือ เมทแอมเฟตามีน (Methamphetamine) ประมาณ 45-65 มก. และ คาเฟอีน (Caffeine) ประมาณ 25-35 มก. สิ่งที่คนไม่ค่อยรู้คือมันยังมีส่วนผสมของ ลิเธียม (Lithium) ซึ่งเป็นโลหะที่มักใช้ในแบตเตอรี่ด้วย ยาชนิดนี้มีการประทับตรา 88 ทำให้บางคนก็เรียกมันว่า ยา 88
เมทแอมเฟตามีน บริสุทธิ์จะเรียกว่า ไอซ์ (ICE) มีลักษณะเป็นผลึกสีขาวคล้ายผงชูรส ส่วน MDMA เป็นที่รู้จักในชื่อ เอ็กซ์ตาซี (Ecstasy) ยาทั้งหมดที่กล่าวมานี้เป็นอนุพันธ์ของ แอมเฟตามีน (Amphetamine) ซึ่งเป็นสารกระตุ้นระบบประสาทส่วนกลางที่ทรงพลัง
WY มีที่มาอย่างไร?
WY ถูกค้นพบครั้งแรกในเยอรมนีเมื่อปี 1887 และถูกผลิตเป็นยาเม็ดโดยนักวิชาการชาวญี่ปุ่นในปี 1919 ในช่วงแรกใช้เป็นยาสำหรับทหารเท่านั้น แต่หลังจากปี 1950 เป็นต้นมา คนขับรถบรรทุก, นักกีฬา และนักเรียนก็เริ่มใช้กันอย่างแพร่หลาย และในปี 1960 ก็มีรูปแบบฉีดออกมาด้วย
ในทวีปเอเชีย มีการผลิตและจำหน่ายอย่างกว้างขวางในอัฟกานิสถาน ก่อนที่กองทัพ 'ว้า' จะเริ่มนำเข้ามาในประเทศพม่า ชื่อ WY มาจากคำว่า Wa Youth (เยาวชนว้า) ปัจจุบันนี้แทบจะไม่มีพื้นที่ไหนในพม่าที่ไม่มี WY วัตถุดิบหลักอย่าง ซูโดอีเฟดรีน (Pseudoephedrine) ถูกนำเข้ามาจากชายแดนอินเดียโดยแกะออกจากแผงยา แต่ตอนนี้ทั้งวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปสามารถเข้าออกได้หลายช่องทาง การผลิตยาเม็ดสามารถทำได้ในห้องขนาดเพียง 8 ตารางฟุตเท่านั้น ส่วนในประเทศไทยมีการนำเครื่องผลิตยาเม็ดใส่ไว้ในรถยนต์และผลิตกันบนถนนทางหลวงไปแล้ว สำหรับพม่า WY เป็นยาเสพติดที่ถูกจับกุมมากที่สุดโดยไร้เจ้าของ ส่วนผู้ที่ถูกจับกุมมากที่สุดคือผู้เสพ
รูปแบบของ WY
ยาบ้า WY ที่รู้จักกันส่วนใหญ่จะเป็นสีชมพูและสีแดง แต่จริงๆ แล้วมันมีหลากหลายรูปแบบและสีสัน มีการประทับตราหลายแบบเช่นกัน
WY สามารถแบ่งตามรูปแบบการประทับตราได้ 4 แบบ (แบบปกติ, Y หางสั้น, Y หางยาว, Y หางโค้ง) และอีกด้านหนึ่งของยาเม็ดแบ่งได้อีก 3 แบบ (แบบบุ๋ม, แบบเรียบ, แบบนูน) นอกจากนี้ยังแบ่งตามเฉดสีของสีชมพูได้ 4 เฉด (อ่อน, ปกติ, เข้ม, แดงเลือดหมู) และสีขาวได้ 2 เฉด (ขาวบริสุทธิ์, สีน้ำนม) และแบ่งตามความหนาของยาเม็ดได้ 3 ระดับ (หนา, กลาง, บาง) ทำให้รวมทั้งหมดมีถึง 16 รูปแบบ นอกจากนี้ ยาบ้า 88 ยังมีอีกด้านหนึ่งที่มีสัญลักษณ์ที่แตกต่างกันได้ถึง 5 แบบ (เรียบ, 0, 1, 2, และอีโมจิ)
วิธีการเสพ WY
การเคี้ยว: ยาที่มีแค่ เมทแอมเฟตามีน สามารถเคี้ยวได้ แต่ไม่ควรลองกับยา WY ที่มีอยู่ในตลาดตอนนี้ เพราะอาจเป็นอันตรายได้
การสูดดม: บดยาให้เป็นผงแล้วสูดดมเหมือนการใช้เฮโรอีน แต่วิธีนี้ก็เป็นอันตรายเช่นกัน
การฉีดเข้าเส้น: บดยาแล้วผสมกับน้ำฝนเพื่อฉีดเข้าเส้นเลือดเหมือนการฉีดฝิ่น หลายคนเสียชีวิตเพราะยาจับตัวเป็นก้อนในเส้นเลือดใหญ่ เป็นวิธีที่น่ากลัวและออกฤทธิ์เร็วมาก
การสูบไอ: นำยาเม็ดไปวางบนแผ่นฟอยล์อลูมิเนียม (เช่น จากกระดาษห่อลูกอม, กล่องบุหรี่ หรืออุปกรณ์ทำผม) แล้วใช้ไฟขนาดเล็กให้ความร้อนจากด้านล่างเพื่อสูบไอที่ระเหยออกมา บางคนมักใช้ธนบัตรม้วนเป็นหลอดเพื่อสูบโดยตรง หรือใช้ขวดน้ำพลาสติกพร้อมหลอดเพื่อกรองน้ำแล้วสูบไอ วิธีนี้เปรียบเหมือนการ "ไล่จับดาวหาง" มีความเชื่อว่าถ้าไม่กรองด้วยน้ำจะเสียชีวิตเร็วขึ้น ส่วนผงสีขาวที่เรียกว่า "โจว" ซึ่งเป็นเศษจากการเผาไม่ควรกิน เพราะยิ่งโลภมากก็ยิ่งอันตรายมากขึ้น ในตอนแรกคุณอาจทำอะไรไม่ถูก แต่เมื่อเสพไปเรื่อยๆ คุณจะเริ่มชอบความรู้สึกที่ได้ "นั่งยา" ซึ่งเป็นสัญญาณที่ยืนยันว่าคุณติดยาแล้ว ชาวพื้นเมืองเรียก WY ว่า "หนึ่งเดียว" เพราะไม่ว่าจะใช้มากแค่ไหนก็ไม่เคยพอและอยากเสพเพิ่มเสมอ ขอเตือนว่ามันเป็นยาที่ทำให้ติดง่ายมาก การไม่เริ่มต้นตั้งแต่แรกคือทางที่ดีที่สุด เพราะจากผู้ใช้ธรรมดาจะกลายเป็นผู้เสพติดได้ไม่ยาก อย่าลืมว่ามันคือยาที่ทำให้วิกลจริต
ผลกระทบของ WY
ในช่วงเริ่มต้นที่ใช้ยา คุณจะรู้สึกตื่นตัวและมีสมาธิดีกับทุกสิ่งที่ทำ
รู้สึกมีความสุขและพึงพอใจ
รู้สึกมีพลังเพิ่มขึ้น
ไม่รู้สึกหิวและไม่อยากอาหาร
พูดคุยเก่งและทำอะไรก็ดูราบรื่นไปหมด
แม้ว่าในตอนแรกจะดูเหมือนดี แต่เมื่อใช้ยาต่อไปเรื่อยๆ ทั้งร่างกายและจิตใจก็จะเสื่อมโทรมลง หากใช้ยาในปริมาณมาก การควบคุมสมาธิจะแย่ลงและกล้ามเนื้อจะเสียหาย
ความจำเสื่อมและสมาธิสั้นลง
ความหวาดระแวงเพิ่มขึ้นและมีพฤติกรรมก้าวร้าวรุนแรง
มีปัญหาในการเข้าสังคมและสุดท้ายก็จะเสียชีวิต
การถูกจับและจำคุกเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
หากคุณไม่เคยลอง อย่าริเริ่ม หากคุณกำลังใช้ยาอยู่ จงพยายามเลิกให้ได้ ในช่วงที่ยาหมดฤทธิ์ คุณจะรู้สึกเจ็บปวดไปทั้งตัว ไม่มีแรง และไม่อยากทำอะไรเลย
รู้สึกวิตกกังวล
หงุดหงิดง่าย
ปวดหัว
กระสับกระส่าย
เมื่อเกิดอาการเหล่านี้ คุณจะยอมจ่ายเงินและเสี่ยงอันตรายเพื่อหาซื้อยามาเสพอีกครั้งอย่างแน่นอน และจะกลายเป็นคนโง่เขลาที่สูญเสียทุกอย่างทั้งในด้านสังคมและเศรษฐกิจ
ผู้ที่มีโรคหัวใจ, ความดันโลหิตสูง, โรคไทรอยด์เป็นพิษ, ประวัติป่วยทางจิตเวช, เคยใช้ยาเสพติดในทางที่ผิด, และหญิงตั้งครรภ์หรือให้นมบุตร ไม่ควรใช้ยานี้อย่างเด็ดขาด
ผลข้างเคียงของยาจะแตกต่างกันไปตามอายุและแต่ละบุคคล
ตาพร่ามัว
ปากแห้ง กระหายน้ำ มีกลิ่นปาก
หินปูนเกาะที่โคนฟัน ฟันผุและหักง่าย
หัวใจเต้นเร็วมาก ความดันโลหิตสูงและบางครั้งก็ต่ำลงอย่างฉับพลัน
เส้นเลือดหัวใจตีบ อาจมีเลือดออกในสมอง หรือภาวะน้ำท่วมปอด
เหงื่อออกมาก อุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด แต่ปลายมือปลายเท้าจะเย็น
กล้ามเนื้อจะเจ็บปวดและเสียหายจนร่างกายซูบผอม
ควรระวังอาการปวดหลัง ซึ่งเป็นสัญญาณของไตวาย
Dr.Ye Mun Paing (Pyone Cho)
M.B., B.S, M.Med.SC (Mental Health)
ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพจิต
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น